จารึกความกล้าบนผืนน้ำกับที่สุดของเส้นทาง
ล่องแก่งของเมืองไทย
ลำน้ำว้า
ข้อมูลท่องเที่ยว
จากตัวเมืองน่าน ใช้ทางหลวง 1168 เมื่อถึง อ. แม่จริม ตามทางหลวง 1243ไปจนถึงบ้านห้วยทรายมูล แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่จริม
ตำแหน่ง GPS
N18° 36.052’, E100° 58.73’
ติดต่อ
อุทยานแห่งชาติแม่จริม
0 5473 0040-1
สิ่งอำนวยความสะดวก
เจ้าหน้าที่นำเที่ยว เรือยาง ที่พัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร ห้องน้ำ ที่จอดรถ
การล่องแก่งลำน้ำว้า จ.น่าน เป็นกิจกรรมผจญภัยที่ครอบคลุมพื้นที่หลักของอุทยานแห่งชาติแม่จริม และอุทยานแห่งชาติดอยภูคาถือได้ว่าเป็นสถานที่ล่องแก่งที่ตื่นเต้นและสนุกที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยระดับความยากมีตั้งแต่ระดับ 1 ไปจนถึงระดับ 5 ตามมาตรฐานสากล ความยากง่ายในการล่องแก่งที่ลำน้ำว้าจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล คือ ช่วงฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม) ความยากจะอยู่ที่ระดับ 3-5ช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) ความยากจะอยู่ที่ระดับ 3-4 และช่วงฤดูร้อน (กุมภาพันธ์-พฤษภาคม) ความยากจะอยู่ที่ระดับ 2-3 สำหรับ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในแต่ละช่วงลำน้ำก็จะต่างกันไป อย่างลำน้ำว้าตอนบนเหมาะที่จะล่องในช่วงต้นฤดูหนาว หลังจากนั้นน้ำจะลด มีโขดหินที่เป็นอุปสรรคในการล่องเรือยางสำหรับลำน้ำว้าตอนกลางเหมาะที่จะล่องในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ส่วนลำน้ำว้าตอนล่างสามารถล่องได้ตลอดทั้งปี ซึ่งลำน้ำว้าตลอดทั้งสายมีระยะทางยาวรวมกว่า 100 กิโลเมตร จึงไม่สามารถล่องในคราวเดียวจนสุดเส้นทางได้ ทำให้มีการแบ่งเส้นทางล่องแก่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้
ช่วงแรก “น้ำว้าตอนบน”
เริ่มจากบ้านสปันไปจนถึงบ้านสบมาง ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร ช่วงแรกของเส้นทางล่องผ่านผืนป่าที่ยังคงสภาพความสมบูรณ์อยู่มาก บางช่วงเป็นป่าดิบแล้ง บางช่วงเป็นป่าดิบชื้น ริมลำน้ำบางช่วงยังพบร่องรอยของสัตว์ป่าและนกหายากอีกด้วย หลังจากล่องมาได้ประมาณ 20 นาที ก็เริ่มเจออุปสรรคจากแก่งต่างๆทั้งโขดหินขนาดใหญ่ น้ำวน และน้ำตกที่มีอยู่เป็นระยะ รวมถึงต้องผ่านแก่งต่างๆ เช่น “แก่งเสือเต้นหนึ่ง” “แก่งโป่ง” “แก่งเลาอู” “แก่งสบห้วยหลวง” “แก่งเฮี้ย” “แก่งกูด” “แก่งสบแปด” ซึ่งเป็นแก่งระดับ 3-4 รวมทั้งแก่งเล็กๆ น้อยๆ อีกจนถึงแก่งระดับ 5 นั่นก็คือ “แก่งถ้ำหอก” และที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สุดๆ ของการล่องแก่งน้ำว้าตอนบน ที่มีระยะห่างระหว่างแก่งแค่เพียง 20-30 เมตรเท่านั้น นั่นก็คือช่วงที่ต้องล่องผ่าน “แก่งห้วยเมี่ยง” “แก่งวังลิง” “แก่งสบห้วยผา” “แก่งวังซาง” “แก่งเสือเต้นสอง” “แก่งวังพุธ” “แก่งวังแก๋ว” “แก่งวังโก่ม” “แก่งเล่องาม” และ “แก่งสบห้วยอ้อ” จากนั้นก็เป็นแก่งเล็กแก่งน้อยจนไปสิ้นสุดที่ “แก่งสบมาง”
ช่วงที่สอง “น้ำว้าตอนกลาง”
เริ่มจากบ้านสบมางไปจนถึงบ้านวังลุน โดยมีระยะทางล่องประมาณ 85 กิโลเมตร อาจใช้เวลาถึง 2 วันในการล่องตลอดเส้นทาง ผ่านแก่งน้อยใหญ่รวมกันกว่า 100 แก่ง ซึ่งมีระดับความยากสูงสุดของแก่งที่ระดับ 5 โดยลักษณะทั่วไปของลำน้ำ จะมีแก่งและวังน้ำน้อยใหญ่ไหลผ่านหุบเขาสองฟากฝั่งเขียวชะอุ่มไปด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ และเนื่องจากลำน้ำมีความกว้างและลึก กระแสน้ำจึงไหลเร็วและแรง ทำให้ระหว่างทางต้องเจออุปสรรคทั้งคลื่นสูงและกระแสน้ำวน บางแก่งเป็นน้ำตกขนาดเล็กๆ ใต้น้ำมีโขดหิน เกิดกระแสน้ำวนอยู่ด้านล่าง สามารถดูดเรือให้ติดหรือคว่ำได้ตลอดเวลา ต้องใช้ทักษะและพละกำลังพอสมควร จึงแนะนำว่าเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การล่องแก่งมาแล้วเท่านั้น
ช่วงที่สาม “น้ำว้าตอนล่าง”
ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นช่วงล่องแก่งที่เล็กและเบาที่สุดใน3 ช่วงของการล่องแก่งน้ำว้า ระดับความยากอยู่ที่ 1-3 เหมาะสำหรับนักผจญภัยทุกเพศทุกวัย เริ่มการล่องแก่งจากแก่งปง ผ่านแก่งน้อยใหญ่มากมาย ที่สร้างความสนุกตื่นเต้นได้ไม่น้อย จนไปสิ้นสุดการล่องแก่งที่ปางช้าง ใช้เวลาการล่องแก่งประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้ายังพอมีเวลาก็สามารถลอยคอ เล่นน้ำ ชมธรรมชาติเพลินๆ ได้เช่นกัน
รู้ก่อนเที่ยว
"ก่อนออกเดินทางไปน่าน ควรโทรไปตรวจสอบความแรงของกระแสน้ำกับผู้ประกอบการอีกที"
แนะนำ
"สอบถามข้อมูลก่อนการเดินทาง"
ขอความร่วมมือ
"เมื่ออยู่บนเรือ ควรเชื่อฟังคำสั่งของนายหัวและท้ายเรือ"