ลักษณะการปีนหน้าผา

BOULDERING คือการปีนโดยไม่ใช้เชือก ที่ความสูงไม่มากนัก ประมาณ 3-5 เมตร ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เมื่อพูดถึงการปีน ก็จะหมายถึง การปีนขึ้นข้างบน แต่ Bouldering จะเป็นการปีนไปทางซ้ายและขวาเพื่อเป็นการฝึกซ้อม ความแข็งแรง ความอดทน และเทคนิคการปีน ซึ่งจำเป็นในการปีนผาสูง ถ้าหากได้ Bouldering เป็นประจำและฝึกร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้ทักษะการปีนหน้าผาพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว

FREE SOLO คือการปีนหน้าผาแบบไม่ใช้เชือกคล้ายกับการปีน Bouldering แต่ต่างกันตรงที่ Solo เป็นการปีนทางสูงขึ้นไป จนถึงยอดเขา หรือถึง จุดสิ้นสุดเส้นทางแล้วจึงปีนลง โดยที่ไม่มีอุปกรณ์กันการตก การปีนแบบนี้จะต้องมีความชำนาญอย่างมากและจิตใจที่เกิน 100

FREE CLIMBING คือ การปีนหน้าผาสูง หรือเป็นการพิชิตยอดเขาและ ต้องใช้อุปกรณ์เพื่อช่วยป้องกันการตกถึงพื้น การปีนลักษณะนี้ต้อง ใช้ทักษะสูงทั้งในการใช้อุปกรณ์ ความพร้อมของร่างกาย เทคนิคการปีน และ ประสบการณ์ เพราะไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์สำหรับดึงเหมือนการปีนเขา

SPORT CLIMBING คือการปีนหน้าผาที่ต้องใช้อุปกรณ์คล้ายกับ Free Climbing แต่มีความปลอดภัยสูงกว่า เพราะจุดป้องกันการตกถูกทำไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่นักปีนหน้าผาปีนตามเส้นทางที่ทำไว้ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ปีน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมเพราะมีความปลอดภัยและสามารถพัฒนาการปีนได้จนถึงขีดสุดของร่างกาย

นอกจากการปีนผากิจกรรมท่องเที่ยวผจญภัยบริเวณหน้าผาที่เริ่มเป็นที่นิยมอีกกิจกรรมก็คือ ABSEILING or RAPPELLING เป็นการโรยตัวจากที่สูงไปยังจุดที่ต่ำกว่าโดยใช้อุปกรณ์และความสามารถส่วนบุคคล รวมถึง เทคนิคต่างๆในการโรยตัว ซึ่งส่วนใหญ่การโรยตัวที่มีความปลอดภัย โดยส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าหน้าผา