ล่องแก่งอุ้มผางคี เดินป่าสู่เส้นทางมหาน้ำตก
ทีลอซู

น้ำตกทีลอซู

วันแรก: ตะลุยลำห้วยอุ้มผางคี
เดินทางสู่หมู่บ้านกะเหรี่ยงอุ้มผางคี เริ่มต้นล่องเรือยางในลำห้วยอุ้มผาง ไปตามแนวทิวเขาถนนธงชัย ซึ่งมีแก่งต่างๆ กว่า 77 แก่ง ซึ่งมีขนาด และความยากง่ายแตกต่างกันไป จนถึง “แก่งวะโก้เก” และ “แก่งไฟแดงใหญ่” ที่ถือเป็นไฮไลท์ของการล่องแก่งเส้นทางนี้ จากนั้นก็ล่องต่อผ่านแก่งเล็กแก่งน้อยต่างๆ มาสิ้นสุดเส้นทางที่หมู่บ้านแปโดทะ ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่า จากนั้นนั่งรถกลับที่พักเตรียมตัวลุยต่อในรุ่งขึ้น

“แก่งหักศอก” เป็น 2 แก่งขนาดกลาง มีความยาวรวมประมาณ 150 เมตร กระแสน้ำบริเวณนี้จะไหลแรงลดระดับกันมาสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เนื่องจากถูกบีบด้วยโขดหินขนาดใหญ่คล้ายคอขวด

วันที่2: จากต้นน้ำแม่กลองสู่น้ำมหาน้ำตกทีลอซู
เริ่มต้นล่องเรือยางที่ลำห้วยยะแมะ ต้นน้ำมาจากยอดเขาไหลผ่านตัวเมืองไปลงลำห้วยแม่กลอง ซึ่งก็คือต้นน้ำแม่กลองนั่นเอง มีลักษณะเป็นธารน้ำไหลเอื่อยๆ ไม่น่ากลัวเหมือนวันแรก เหมาะสำหรับพายเรือกินลม ชมธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วงต้นหนาว อากาศแจ่มใสต้นไม้ใบหญ้าสองฟากฝั่งเขียวชอุ่มสมบูรณ์ ว่ากันว่าเป็นเส้นทางล่องเรือยางที่สวยที่สุดในประเทศไทย

ล่องมาซักพักถึงที่ “น้ำตกทีลอจ่อ” มาจากภาษากะเหรี่ยงที่แปลว่าน้ำตกสายฝน มีลักษณะคล้าย ม่านฝนตกลงมาจากหน้าผาลงสู่สายน้ำ สามารถพายเรือลอดเข้าไปใต้น้ำตกได้ ให้ความรู้สึกเหมือนพายเรือ กลางสายฝน

ถัดมาไม่ไกลกัน ก็จะถึง “น้ำตกสายรุ้ง” น้ำตกนี้เด่นตรงที่ถ้าแดดส่องยามสาย ๆ ด้านหน้าจะเกิดรุ้งกินน้ำอย่างสวยงาม จุดแวะพักต่อมาคือ “บ่อน้ำร้อน” จากจุดนี้ต้องจอดเรือแล้วเดินขึ้นฝั่ง แช่น้ำอุ่นผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ล้างหน้า ล้างตาก่อนออกเดินทางต่อ (บ่อน้ำร้อนที่นี่พิเศษตรงที่ไม่มีกลิ่นกำมะถัน)

จากนั้นพายชมทิวทัศน์ หากโชคดีอาจเจอนกหายากบินมาทักทายระหว่างทาง จนมาถึงจุดจอดเรือที่ บ้านท่าทราย จุดสังเกตที่ชัดเจนคือเป็นชายหาดทราย ขึ้นจากเรือยางถอดชูชีพกันที่นี่ รวมเวลาล่องเรือ ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากพักผ่อน ทานมื้อเที่ยง เตรียมตัวเดินทางไปยัง “น้ำตกทีลอซู” ซึ่งเป็นการเดินทาง ด้วยเท้าเข้าป่าขึ้นลงเขา ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรหรือประมาณ 3 ชั่วโมง (หากไม่สะดวกหรือต้องการ ย่นระยะเวลา สามารถนั่งรถไปได้)

น้ำตกทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ เป็นน้ำตกที่ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูน ความสูง 200 เมตร ความกว้าง 400 เมตร ถ้ามองจากด้านหน้าจะเห็นน้ำตกเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างสุดมีแอ่งน้ำลงเล่นน้ำได้ ส่วนชั้น 2 นั้น ถ้าอยู่ในช่วงกลางฤดูหนาวไปแล้วสามารถเดินขึ้นไปได้ ที่ชั้นนี้มีจุดเด่นอยู่บริเวณตรงกลาง ช่วงสายๆหากแดดส่องจะสะท้อนเกิดรุ้งกินน้ำสวยงาม สำหรับชั้นที่ 3 ยังไม่มีทางขึ้น

หากต้องการชมน้ำตกในมุมสูง มีทางขึ้นเขาตรงทางเดินจากลานจอดรถเข้ามายังน้ำตก ก่อนถึงน้ำตกมีทางแยกขวาขึ้นเขาสูงชัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ปีนไปถึงยอดเขา จากมุมมองนี้ รับรองว่าความสวยงามของน้ำตกจะทำให้คุณหายเหนื่อยทันที